คุมเข้มขนย้ายมันสำปะหลัง หวั่นลักลอบนำเข้า-ฉุดราคาตกต่ำ
นายสมชาติ สร้อยทอง รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ซึ่ง รมว.พาณิชย์ ได้มอบหมายให้นายวินิจฉัย แจ่มแจ้ง ผู้ช่วย รมว.พาณิชย์ เป็นประธานการประชุมแทน ว่า ที่ประชุม กกร.มีมติให้เพิ่มจังหวัดที่ควบคุมการขนย้ายมันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์อย่างเข้มงวดอีก 3 จังหวัด ประกอบด้วย บึงกาฬ ศรีสะเกษ ตราด
ทั้งนี้เพื่อป้องกันการลักลอบนำเข้ามันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์ ที่มาจากประเทศเพื่อนบ้านแบบไม่ถูกต้อง โดยไม่มีใบรับรองการขออนุญาต, ใบรับรองด้านโรคพืช และมาตรฐาน จากปัจจุบันที่ได้มีการคุมเข้มอยู่ตามด่านต่างๆ ในจังหวัดที่ติดกับชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เชียงราย, เลย, ตาก, จันทบุรี, สระแก้ว, สุรินทร์, นครพนม, มุกดาหาร, เลย, หนองคาย และอุบลราชธานี ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ได้ร่วมมือกับหน่วยงานความมั่นคง และด่านกักกันพืช ในการกำกับดูแลไม่ให้มีการลักลอบนำเข้า จนทำให้เกิดผลกระทบกับผลผลิตและราคาภายในประเทศ
“ที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์ได้มีการติดตามการนำเข้ามันสำปะหลังอย่างใกล้ชิด โดยติดตามข้อมูลของผู้ประกอบการนำเข้าทุกราย หากพบว่าผู้ประกอบการรายใดกระทำความผิด จะถูกลงโทษตามระเบียบอย่างเคร่งครัด”นายสมชาติ กล่าว
สำหรับราคาปัจจุบัน หัวมันสำปะหลังสด(เชื้อแป้ง 25%) กิโลกรัม (กก.) ละ 2 บาท เป็นราคาที่ลดลงจากเมื่อเดือนธันวาคม 2558 เฉลี่ย กก.ละ 2.25 บาท และกก.ละ 2.10 บาท ขณะที่ต้นทุนเกษตรกรอยู่ที่ กก.ละ 1.90 บาท
โดยแนวทางการตรวจสอบ นอกจากการคุมเข้มเพื่อสกัดการลักลอบนำเข้าแล้ว ยังมีการตรวจสอบรถบรรทุกที่มีขนาดเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด หรือคันละไม่เกิน 21 ตัน หรือรถพ่วงคันละไม่เกิน 30 ตัน ไม่ให้เข้ามาในประเทศ เพราะน้ำหนักรถบรรทุกของประเทศเพื่อนบ้านเฉลี่ยที่คันละ 50 ตัน มีผลทำให้ได้เปรียบในเรื่องต้นทุนการผลิต และมีผลทำให้ราคามันสำปะหลังไทยตกต่ำ ทั้งนี้ในปี 2559 คาดว่าผลผลิตมันสำปะหลังของไทยจะลดลงเหลือเพียง 28 ล้านตัน จากปัญหาภัย แล้ง ซึ่งปกติมีผลผลิต 31 ล้านตัน
ทั้งนี้รัฐบาลไทยได้พยายามแก้ไขปัญหาราคามันสำปะหลังตกต่ำ กับผู้ประกอบการมันสำปะหลัง และเกษตรกร โดยออกมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรเพื่อชะลอการขุดหัวมันสด เพื่อป้องกันไม่ให้ราคามันสำปะหลังตกต่ำ จากที่เกษตรกรจะขุดหัวมันออกมาพร้อมๆ กัน โดยให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ปล่อยสินเชื่อให้เกษตรกรรายละไม่เกิน 50,000 บาท โดยจะเป็นวงเงินกู้ใหม่ ไม่เกี่ยวกับเงินกู้เดิมที่มีสินเชื่อค้างอยู่ รวมทั้งมาตรการการให้เงินกู้กับกลุ่มสหกรณ์ที่
รับซื้อหัวมันสำปะหลังสดจากเกษตรกรด้วย โดยจะมีวงเงินรวม 5,000 ล้านบาท ปล่อยกู้ที่อัตราดอกเบี้ย 4%
ส่วนมาตรการอื่น ได้แก่ การบริหารจัดการตลาดมันสำปะหลัง ผ่านโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการ เพาะปลูกมันสำปะหลังในระบบน้ำหยด เป้าหมายเกษตรกรรายย่อยผู้ปลูกมันสำปะหลัง 20,000 ราย วงเงินกู้รายละไม่เกิน 230,000 บาท เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้และมีผลผลิตต่อไร่สูงขึ้น โดยกระทรวงพาณิชย์ได้ลงพื้นที่เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจกับเกษตรในการช่วยเหลือการเพาะปลูกมันสำปะหลังในปีการผลิต 2558/59
ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า