พณ. จับมือผู้ผลิตเอทานอล ช่วยรับซื้อหัวมันเกษตรกรมากขึ้น หวังดันราคา

พาณิชย์ เตรียมจับมือผู้ผลิตเอทานอล เซ็นเอ็มโอยูกับกลุ่มเกษตรกรปลูกมันสำปะหลัง-สหกรณ์ รับซื้อหัวมันสดผลิตเอทานอลให้มากขึ้น หวังดันราคาขึ้น ส่วนตรวจสอบตาชั่ง เครื่องวัดความชื้น พิจิตร-พิษณุโลก พบผิดหลายกระทง ปรับแล้วรายละ 2-8 หมื่นบาท

วันที่ 22 พ.ย.59 นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมช.พาณิชย์ เปิดเผยถึงการประชุมร่วมกับสมาคมการค้าผู้ผลิตเอทานอลไทย และสมาคมเอทานอลจากมันสำปะหลัง เพื่อพิจารณาแนวทางส่งเสริมการใช้มันสำปะหลังในการผลิตเอทานอลว่า กระทรวงพาณิชย์ได้ขอความร่วมมือผู้ผลิตเอทานอลให้ช่วยรับซื้อมันสำปะหลังสดในประเทศให้มากขึ้น เพื่อนำไปผลิตเป็นเอทานอล จากปัจจุบันยังใช้มันสำปะหลังผลิตน้อยมากเพียง 28% ของการผลิตเอทานอลทั้งหมด ส่วนใหญ่ประมาณ 66% จะผลิตจากกากน้ำตาล ที่เหลืออีก 6% เป็นวัตถุดิบอื่นๆ ซึ่งจะช่วยเพิ่มช่องทางการตลาดให้กับเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง และยกระดับราคามันสำปะหลังให้สูงขึ้นได้

“กระทรวงฯ ได้ขอความร่วมมือให้ผู้ผลิตเอทานอล รับซื้อมันสำปะหลังให้มากขึ้น ซึ่งในเร็วๆ นี้จะมีการจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือร่วมกัน (เอ็มโอยู) ระหว่างกลุ่มเกษตรกร/สหกรณ์ และสมาคมการค้าผู้ผลิตเอทานอลไทย สมาคมเอทานอลจากมันสำปะหลัง เพื่อช่วยเชื่อมโยงกลุ่มเกษตรกร/สหกรณ์ ที่มีศักยภาพและมีความพร้อมในด้านการผลิตเข้าสู่อุตสาหกรรมเอทานอล”

สำหรับสถานการณ์ราคามันสำปะหลังสด ปีการผลิต 59/60 ที่จะออกมากในเดือนธ.ค.59-มี.ค.60 นั้น วันที่ 21 พ.ย.59 โรงแป้งจังหวัดนครราชสีมา รับซื้อเชื้อแป้ง 25% ที่กิโลกรัม (กก.) ละ 1.60-2.00 บาท เพิ่มขึ้นจากเดือน ต.ค.ที่รับซื้อที่ กก.ละ 1.48-1.70 บาท แต่ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่รับซื้อ กก.ละ 2.30-2.55 บาท อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์จะผลักดันให้มีการใช้มันสำปะหลังให้มากขึ้น และส่งเสริมให้มีการส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังที่มีมูลค่าเพิ่มสูง ให้มีความหลากหลายมากขึ้น

ด้านนางอภิรดี ตันตราภรณ์ กล่าวว่า กระทรวงฯ ได้ขอความร่วมมือกับทหารในพื้นที่สนับสนุนการปฏิบัติงานของสายตรวจชั่งตวงวัด ในการออกตรวจสอบ เครื่องชั่งรถยนต์ เครื่องวัดความชื้นของผู้ประกอบการโรงสี ท่าข้าว ลานรับซื้อมันสำปะหลัง และลานรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งล่าสุด เมื่อวันที่ 8 – 10 พ.ย.59 ได้ร่วมกับกองทัพภาคที่ 3 นำกำลังออกตรวจสอบในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลกและพิจิตร เพื่อให้เกษตรกรขายผลผลิตโดยได้รับความเป็นธรรม พบโรงสีและท่าข้าวหลายแห่งใช้เครื่องใช้รถยนต์ที่มีซอฟต์แวร์ผิดกฎกระทรวงฯ เช่น มีรหัสลับเข้าไปแก้ไขน้ำหนัก และใช้โปรแกรม Excel เข้าไปพิมพ์ใบชั่ง ซึ่งได้ผูกบัตรห้ามใช้ และเปรียบเทียบปรับ รวมถึงยังพบเครื่องวัดความชื้นหมดอายุคำรับรอง จึงได้เปรียบเทียบปรับรายละ 20,000 – 80,000 บาท

ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ