โคราชเร่งแก้เชื้อรากินหัวมันสำปะหลัง แนะพบเจอเผาทิ้งทันที สกัดก่อนลุกลาม
เมื่อวันที่ 12 มกราคม นายวุฒินันท์ ศักดิ์กระโทก เกษตรอำเภอเสิงสาง เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังในเขต อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา ร้องเรียนว่าขณะนี้มีการระบาดของเชื้อราไพท็อปในไร่มันสำปะหลัง ซึ่งขณะนี้ ได้มีการตรวจวินิจฉัย โดยกรมวิชาการเกษตร พบสาเหตุของโรคเกิดจากเชื้อราไฟท็อปธอรา เกิดจากการเป็นเชื้อราในดิน และเหง้ามัน ที่สามารถอยู่ได้ข้ามฤดู ซึ่งสามารถสร้างสปอร์ที่ว่ายน้ำได้ จึงแพร่ระบาดในหน้าฝนได้อย่างรวดเร็ว โดยที่ผ่านมา จะพบได้ในมันสำปะหลังตั้งแต่อายุ 3 เดือนขึ้นไป โดยเชื้อจะเข้าสู่โคนต้นก่อน ทำให้เกิดอาการบวมพองและมีปุ่มรากที่โคนต้นเหนือผิวดิน จากนั้นเชื้อจะลามลงไปที่รากและก้านขั้วหัวมัน
ส่วนอาการเหนือดินสังเกตได้จากใบเริ่มซีดเหลือง จากนั้นใบล่างเริ่มแสดงอาการเหี่ยวและแห้งคาต้น เมื่อถอนต้นรากและหัวเน่า แต่ลำต้นยังเป็นปกติ เกษตรกรจึงตัดต้นไปขายเป็นท่อนพันธุ์ จึงทำให้เชื้อสามารถแพร่ขยายได้ในวงกว้าง โดยเฉพาะพื้นที่ อ.เสิงสาง ถือเป็นแหล่งผลิตท่อนพันธุ์มันสำปะหลังที่สำคัญของประเทศ ยิ่งทำให้เชื้อสามารถกระจายโรคไปสู่แหล่งปลูกจังหวัดอื่นๆ และประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งจากการลงพื้นที่สำรวจ พบปัจจัยการระบาดมาจากใช้พันธุ์ ซึ่งอ่อนแอต่อโรค ดินระบายน้ำไม่ดี การปลูกมันระยะชิดเกินไป รวมทั้งเมื่อขุดมันไปขาย มีการทิ้งเหง้าเป็นโรคไว้ในแปลง จึงกลายเป็นแหล่งสะสมโรค และการระบาดจะเกิดมากกับมันสำปะหลังพันธุ์ 89, ระยอง 11, ห้วยบง 60 และเกษตรศาสตร์ 50 แต่พันธุ์ระยอง 72 ที่ปลูกในแหล่งระบาดกลับไม่แสดงอาการของโรคให้เห็น
นายวุฒินันท์เปิดเผยอีกว่า สำหรับมาตรการป้องกัน ควรปลูกพืชหมุนเวียนที่ไม่ใช่พืชอาศัยของเชื้อราไฟท็อปธอรา เช่น ข้าวโพด อ้อย หากต้องการปลูกมัน ควรปรับฤดูปลูกไปช่วงฤดูแล้ง เพื่อเก็บเกี่ยวได้ทันก่อนฝนตกชุก หลังเก็บเกี่ยว เก็บเหง้า ตอ และต้นมันสำปะหลังออกจากแปลง และเผาเพื่อฆ่าเชื้อ ไถระเบิดดินดานเพื่อให้ดินระบายน้ำดีควรปลูกแบบยกร่องตามแนวลาดเอียง เพื่อให้น้ำไหลออกได้เร็ว ไม่ขังในช่วงฤดูฝน ใช้พันธุ์ทนทานต่อโรค ใช้ท่อนพันธุ์สะอาดจากแหล่งที่ไม่เป็นโรค หรือก่อนปลูก สามารถแช่พร้อมกับสารป้องกันกำจัดเพลี้ยแป้ง และไม่ควรใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก เพราะทำให้ดินสะสมความชื้นมากเอื้อต่อการเจริญของเชื้อรา และไม่ควรใส่ปุ๋ยไนโตรเจนมากเกินไป จะทำให้ต้นเป็นโรคได้ง่าย
ที่มา : หนังสือพิมพ์มติชน