อนาคตเกษตรยุคใหม่! กรมวิชาการเกษตรเปิดเวทีใหญ่ ดัน ‘จีโนม’ ตัวช่วยสร้างพืชพันธุ์เทพ ทนทานต่อโรค-ภัยแล้ง ย้ำ! ไม่ใช่พืช GMO ที่น่ากังวล

กรมวิชาการเกษตร เปิดเวทีเสวนาครั้งสำคัญ Focus Group ในประเด็น “อนาคตเกษตรไทยยุคใหม่” เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการใช้ เทคโนโลยีการปรับแต่งจีโนม (Genome Editing หรือ GEd) ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการพัฒนาพืชพันธุ์ให้แข็งแกร่ง ทนทาน และมีคุณภาพดีขึ้น เพื่อสู้กับวิกฤตที่เกษตรกรกำลังเผชิญ!

โอกาสทองของเกษตรกร ทำไมต้องสนใจ “เทคโนโลยีปรับแต่งจีโนม”?
นายรพีภัทร จันทรศรีวงศ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า กรมฯ ให้ความสำคัญกับการนำเทคโนโลยีนี้มาใช้เพื่อสร้างประโยชน์สูงสุดแก่ภาคการเกษตรไทย เพราะนี่คือทางออกสำคัญในการรับมือกับ ภัยพิบัติและสภาพอากาศแปรปรวน สร้างพืชที่ทนแล้ง ทนโรคได้เร็วขึ้น ไม่ต้องรอการปรับปรุงพันธุ์แบบเดิม ๆ นานหลายปี ปัญหาราคาตกต่ำและผลผลิตล้นตลาด พัฒนาพันธุ์พืชให้มีคุณภาพตรงตามความต้องการของตลาดโลก สร้างโอกาสทางการค้าใหม่ ๆ ความมั่นคงทางอาหาร เพิ่มผลผลิตต่อพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เทคโนโลยีปรับแต่งจีโนม (GEd) แตกต่างจากพืช GMO ที่มีการตัดต่อยีนต่างชนิดใส่เข้าไป แต่ GEd เป็นการปรับปรุงแก้ไขยีนที่มีอยู่แล้วในพืชอย่างแม่นยำ คล้ายกับการกลายพันธุ์ตามธรรมชาติ แต่ทำได้เร็วและควบคุมได้ ทำให้เกิดความเข้าใจผิดในวงกว้าง กรมฯ ยืนยันว่าเทคโนโลยีนี้จะถูกใช้ภายใต้หลักวิชาการที่ถูกต้องและมีการกำกับดูแลอย่างเข้มงวดตามมาตรฐานสากล

โปร่งใส ปลอดภัย! กฎหมายใหม่เพื่อพี่น้องเกษตรกร
กรมวิชาการเกษตรได้มีการออกประกาศสำคัญ 2 ฉบับ คือ ประกาศกระทรวงเกษตรฯ พ.ศ. 2567 ว่าด้วยการรับรองสิ่งมีชีวิตที่พัฒนาจากเทคโนโลยีการปรับแต่งจีโนม เพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์ในภาคเกษตรอย่างถูกต้อง และ ประกาศกรมวิชาการเกษตร พ.ศ. 2567 ว่าด้วยหลักเกณฑ์การรับรองพืชที่พัฒนาจากเทคโนโลยีนี้ ซึ่งยืนยันว่าไม่ใช่พืช GMO

ประกาศเหล่านี้จะทำให้เกษตรกรและนักวิจัยสามารถเข้าถึงนวัตกรรมการพัฒนาพันธุ์พืชได้เร็วขึ้น ควบคู่ไปกับการประเมินความปลอดภัยเพื่อคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อมอย่างรอบด้าน

เวทีแลกเปลี่ยนเสียงจากทุกภาคส่วน
เวทีเสวนาในครั้งนี้ไม่ได้มีแค่นักวิชาการ แต่ยังได้รับเกียรติจากหลายภาคส่วน ทั้งกรรมาธิการด้านการเกษตร ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยอาหาร (อย.) สมาคมเมล็ดพันธุ์ สภาอุตสาหกรรม และที่สำคัญคือมีเสียงของ “เกษตรกรสมัยใหม่” เข้าร่วมให้ข้อมูลด้วย

อธิบดีกรมวิชาการเกษตร ย้ำปิดท้ายว่า “การประชุมครั้งนี้เป็นก้าวสำคัญที่กรมฯ พร้อมเปิดรับฟังข้อกังวลของพี่น้องประชาชนและเกษตรกรอย่างจริงใจ เพื่อให้มั่นใจว่าเทคโนโลยีนี้จะนำมาซึ่งคุณประโยชน์ต่อประเทศ เกษตรกร และผู้บริโภคได้อย่างยั่งยืนที่สุด”

สิ่งที่พี่น้องเกษตรกรจะได้ประโยชน์จากเทคโนโลยีนี้ พืชพันธุ์ดีขึ้น ทนทานต่อโรค แมลง และสภาพอากาศได้ดีกว่าเดิม ลดต้นทุน ลดการใช้สารเคมีและปุ๋ย เพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจ ผลผลิตมีคุณภาพสูงตรงตามมาตรฐานที่ตลาดต้องการ

ที่มา : Fackbookเกษตรสัญจร