“พาณิชย์” คาดปี 61 มันราคาดี พร้อมประกาศใช้มาตรการคุมนำเข้าใหม่ เริ่ม 1 ม.ค.

“พาณิชย์” คาดมันสำปะหลังปี 61 ราคาดีกว่าปี 60 มีโอกาสขยับถึงกิโลกรัมละ 2.50 บาท หลังตลาดมีความต้องการทั้งมันเส้น แป้งมัน และยังมีแผนขยายตลาดส่งออกเพิ่ม ระบุ 1 ม.ค. 61 ประกาศใช้มาตรการนำเข้าใหม่ ดูแลการนำเข้า และกันมันด้อยคุณภาพเข้าประเทศจนกระทบราคาภายใน

นายกีรติ รัชโน รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า สถานการณ์มันสำปะหลังปี 2560/61 คาดว่าจะมีผลผลิตประมาณ 28 ล้านตัน ลดลงจากปี 2559/60 ที่มีปริมาณ 30 ล้านตัน โดยแนวโน้มราคาจะดีขึ้นจากปี 2560 อย่างแน่นอน เพราะขณะนี้ราคาได้ปรับขึ้นมาอยู่ที่กิโลกรัม (กก.) ละ 2.40 บาทแล้ว มีโอกาสขึ้นไปถึง กก.ละ 250 บาท หรือสูงกว่าได้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะผลผลิตลดลง และตลาดมีความต้องการเพิ่มขึ้นทั้งมันเส้นและแป้งมัน ทำให้ราคาปรับตัวดีขึ้น

“ช่วงนี้ฝนตก เกษตรกรต้องเลื่อนการขุดมันออกไป แทนที่จะเริ่มขุดกันช่วงนี้ และปกติจะออกมากในช่วง ม.ค.-เม.ย. และพอชะลอการขุด ทำให้ผลผลิตที่จะออกมากก็ไล่กันออก จึงไม่กระทบต่อราคา แต่ก็ต้องไปดูช่วง ม.ค.-ก.พ.อีกที ถ้าไม่มากก็ไม่มีผลต่อราคา และหากเป็นไปอย่างที่คิดรัฐบาลจะหมดความกังวลสินค้าเกษตรหลักไปได้อีกตัว” นายกีรติกล่าว

นายกีรติกล่าวว่า ในปี 2561 กรมฯ มีแผนที่จะขยายตลาดส่งออกให้กับมันเส้นและแป้งมันต่อเนื่อง นอกจากการผลักดันส่งออกไปตลาดเดิม ทั้งจีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ จะเร่งขยายตลาดส่งออกใหม่ เช่น ตุรกีให้ได้เพิ่มขึ้น หลังจากที่ปี 2560 ได้ไปเจรจาซื้อขายมันสำปะหลังประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก และจะไปโรดโชว์อีกช่วงเดือน เม.ย. 2561 มั่นใจว่าจะผลักดันส่งออกได้เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะมันสำปะหลังที่นำไปทำอาหารสัตว์ รวมทั้งมีแผนจัดงานประชุมมันสำปะหลังนานาชาติช่วงเดือน มิ.ย. 2561 เพื่อแสดงศักยภาพการผลิตและการส่งออกมันสำปะหลังของไทยอีกครั้ง

นอกจากนี้ กรมฯ จะร่วมมือกับสมาคมที่เกี่ยวข้องกับมันสำปะหลังในการผลักดันให้สมาชิกกำหนดราคาส่งออกที่สะท้อนความเป็นจริง และป้องกันปัญหาการขายตัดราคา จนส่งผลกระทบกลับมายังหัวมันสด และขอให้ช่วยกันเป็นหูเป็นตา อย่าเชื่อข่าวลือข่าวปล่อย เช่น จีนจะห้ามนำเข้ามันสำปะหลังเพราะเกิดฝุ่น ซึ่งเป็นข่าวที่มักจะนำมาปล่อยเพื่อหวังกดราคา ทั้งๆ ที่ไม่มีมูลความจริง

สำหรับการดูแลการนำเข้ามันสำปะหลังจากประเทศเพื่อนบ้าน ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2561 กระทรวงพาณิชย์จะนำมาตรการใหม่มาใช้ โดยก่อนนำเข้า ผู้นำเข้าต้องแจ้งวัตถุประสงค์ในการนำเข้า เพื่อให้รู้ว่าจะเอามันไปทำอะไร โดยให้กรอกข้อมูลผ่านเว็บไซต์ของกรมฯ และพรินต์ออกมาประกอบการนำเข้า ไม่ต้องติดต่อกรมฯ และให้กรมฯ อนุญาตก่อน ติดต่อผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์เท่านั้น และอีกมาตรการ ผู้นำเข้าต้องพร้อมให้พนักงานสุ่มตรวจคุณภาพมาตรฐาน เพื่อป้องกันไม่ให้สินค้าด้อยคุณภาพเข้าสู่ประเทศและส่งผลกระทบต่อระดับราคาในประเทศ ซึ่งหากตรวจผ่านก็ผ่าน ไม่ผ่านก็ต้องปรับปรุงให้ได้มาตรฐานก่อนยื่นต่อกรมฯ เพื่อขอปลดล็อกการนำเข้า โดยมาตรการนี้ไม่ได้เป็นการกีดกันการนำเข้า หรือห้ามการนำเข้าใดๆ ยังคงสามารถนำเข้าได้ตามปกติ แต่ต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด

ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์