อู๊ดด้า’ลุยไร่มันสำปะหลัง จี้รัฐแก้โรคใบด่างระบาด
พรรคประชาธิปัตย์ลงพื้นที่โคราช เข้าหารือเกษตรกร และผู้ประกอบการโรงงานแป้งมัน หลังชาวไร่มันประสบปัญหาโรคใบด่างจากแมลงหวี่ขาวเล่นงานหลายพันไร่ในหลายจังหวัด ไฟเขียว ‘วุฒิพงษ์’ ส.ส.อุบลฯ ตั้งกระทู้ในสภาฯ สัปดาห์นี้จาก รมต.เกษตรฯ ถามหาแนวทางแก้ไข ยันมาโคราชในฐานะ ส.ส.ไม่ใช่ว่าที่รัฐมนตรี แต่พร้อมทำงานเต็มที่
เมื่อวันที่ ๑ กรกฏาคม ๒๕๖๒ เวลา ๑๐.๐๐ น. ที่สำนักงานเทศบาลตำบลไชยมงคล จังหวัดนครราชสีมา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ (อู๊ดด้า) หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมคณะ ประกอบด้วย คุณหญิงกัลยา โสภณพณิช รองหัวหน้าพรรค นายไชยยศ จิรเมธากร รองหัวหน้าพรรค นายชำนิ ศักดิเศรษฐ์ ดร.รัชดา ธนาดิเรก นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข กรรมการบริหารพรรค นางรัชฎาภรณ์ แก้วสนิท ดร.ศุภชัย ศรีหล้า นายวุฒิพงษ์ นามบุตร ส.ส.อุบลราชธานี นายจุฤทธิ์ ลักษณวิศิษฏ์ รองโฆษกพรรค นายธนน เวชกร กานนท์ และนายสุนทร รักษ์รงค์ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรค ลงพื้นที่พบปะตัวแทนเกษตรกร และผู้ประกอบการมันสำปะหลัง เพื่อรับฟังปัญหา ข้อเสนอแนะ และติดตามสถานการณ์ราคามันสำปะหลัง โดยมีประชาชนให้การต้อนรับกว่า ๕๐๐ คน
เวลา ๑๓.๐๐ น. นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมคณะ เดินทางไปที่สมาคมโรงงานผู้ผลิตมันสำปะหลัง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อร่วมประชุมกับ ๔ องคาพยพ คือ ๑.ชาวไร่มันสำปะหลัง ๒.ผู้ประกอบการลานมัน ๓.ผู้ประกอบการโรงมัน และ๔.ผู้ส่งออกมันสำปะหลัง โดยมีนายสมบูรณ์ วัฒนวานิชย์กุล นายกสมาคมโรงงานผู้ผลิตมันสำปะหลัง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นายอนุวัฒน์ ฤทัยยานนท์ นายกสมาคมแป้งมันสำปะหลัง นายบุญชัย ศรีชัย ยงพานิช นายกสมาคมการค้ามันสำปะหลังไทย และนายสมชาย วราธนสิน นายกสมาคมโรงงานผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังไทย นายรังษี ไผ่สอาด นายกสมาคมชาวไร่มันสำปะหลังแห่งประเทศไทย นายเติมศักดิ์ บุญชื่น ประธานสภาเกษตรกรจังหวัดนครราชสีมา และนายพรชัย อำนวยทรัพย์ ส.ส.นครราชสีมา พรรคภูมิใจไทย ในฐานะอุปนายกสมาคมไร่มันสำปะหลังแห่งประเทศไทย พร้อมตัวแทนเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังกว่า ๕๐ คน
‘ไทย’ผลิตมันฯที่ ๒ ของโลก
นายสมบูรณ์ วัฒนวานิชย์กุล นายกสมาคมโรงงานผู้ผลิตมันสำปะหลัง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กล่าวว่า มันสําปะหลังเป็นพืชอาหารที่มีความสําคัญเป็นอันดับ ๕ ของโลก รองจากข้าวสาลี ข้าวโพดขาว มันฝรั่ง ในปี ๒๕๖๑ มีผลผลิตทั่วโลกปริมาณรวมประมาณ ๒๒๗ ล้านตัน โดยผลผลิตอยู่ในทวีปแอฟริกา ๑๖๐.๗๓ ล้านตัน ทวีปเอเชีย ๘๕.๕๑ ล้านตัน และทวีปลาตินอเมริกา ๓๐.๕๙ ล้านตัน โดยมีประเทศผู้ผลิตมัน สําปะหลังที่สําคัญ ๕ อันดับแรกของโลก ได้แก่ ประเทศไนจีเรีย มีผลผลิตประมาณ ๕๖ ล้านตัน (ร้อยละ ๒๐) รองลงมาคือ ประเทศไทย มีผลผลิตประมาณ ๒๗.๗ ล้านตัน (ร้อยละ๑๐) ประเทศอินโดนีเซีย มีผลผลิตประมาณ ๒๑ ล้านตัน (ร้อยละ ๘) ประเทศบราซิลมีผลผลิตประมาณ ๒๐.๙ ล้านตัน (ร้อยละ ๘) และประเทศ กาน่า มีผลผลิตประมาณ ๑๙.๔ ล้านตัน (ร้อยละ ๗)
“สําหรับประเทศไทย มันสําปะหลังนับเป็นพืชเศรษฐกิจเชิงพาณิชย์ที่สําคัญ มีความเกี่ยวข้องกับเกษตรกรกว่า ๗ แสนครัวเรือน มีปริมาณผลผลิตประมาณ ๒๗-๓๐ ล้านตัน ในแต่ละปีโดยประเทศไทยเป็น ประเทศผู้ผลิตมันสําปะหลังมากเป็นอันดับที่ ๒ ของโลก รองลงมาจากประเทศไนจีเรีย ตามข้อมูลข้างต้น ในระยะเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมา ได้สร้างรายได้เข้าประเทศเป็นจํานวนหลายหมื่นล้านบาท จวบจนปี ๒๕๕๖ มัน สําปะหลังสามารถสร้างรายได้เข้าประเทศถึงแสนล้านบาทตลอดมา”
นายสมบูรณ์ กล่าวต่อว่า ในประเทศไทยมีการใช้มันสําปะหลังภายในประเทศเพียงร้อยละ ๓๐ ส่วนที่เหลือร้อยละ ๗๐ ส่งออก ไปยังตลาดโลก โดยในปี ๒๕๖๑ มีการส่งออกผลิตภัณฑ์ มันสําปะหลังคิดเป็นหัวมันสดกว่า ๒๗.๗ ล้านตัน สร้างรายได้เข้าประเทศ มูลค่ารวมกว่าแสนล้านบาท โดยประเทศไทยเป็นประเทศผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์มันสําปะหลัง อันดับหนึ่งของโลกด้วยทั้งนี้ อุตสาหกรรมมันสําปะหลังในประเทศไทยมีความต้องการใช้หัวมันในระดับ ๓๓-๔๖ ล้านตัน ในราคาที่เหมาะสม
วอนรัฐจัดสรรงบ เพื่อความยั่งยืน
นายบุญชัย ศรีชัยยงพานิช นายกสมาคมการค้ามันสำปะหลังไทย กล่าวว่า มันสําปะหลังสร้างรายได้เข้าประเทศปีละประมาณ ๑๐๐,๐๐๐ ล้านบาท รัฐบาลควรจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้เกษตรกรผู้ปลูกมันสําปะหลังในการยึดอาชีพ ปลูกมันฯ อย่างยั่งยืน ให้ข้อมูลเกษตรกรให้เข้าใจถึงความต้องการของตลาด พัฒนาผลผลิตต่อไร่ให้สูงขึ้นอันจะส่งผลให้ต้นทุนต่ำลง พัฒนาใช้เครื่องจักรในการเพาะปลูก ดูแล และเก็บเกี่ยว ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการสนับสนุนเกษตรกรเป็นเครือข่ายในการป้อนหัวมันสดให้ผู้ประกอบการ ที่ต้องการใช้หัวมันได้ทํางานตลอดทั้งปี อีกทั้งส่งเสริมให้ผู้ประกอบการมีความเข้มแข็งในการพยุงราคาหัวมันไม่ให้ตกต่ำเกินความเป็นจริง และควรกําหนดมาตรการเสริมเพื่อเป็นการรักษาเสถียรภาพราคาให้เกิดความเหมาะสมทั้งระบบเพื่อให้เกษตรกรเกิดความมั่นใจในด้านราคาโดยที่ราคามันฯ ไม่ควรอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าต้นทุน ของเกษตรกรไทย
เร่งจำกัด ‘โรคใบด่างมันฯ’
นายรังษี ไผ่สอาด นายกสมาคมชาวไร่มันสำปะหลังแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปัญหาและอุปสรรคที่ต้องดําเนินการเร่งด่วนคือ ๑.กําหนดนโยบาย และมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรอย่างเร่งด่วน ที่ประสบปัญหาโรคใบด่างมันสําปะหลัง พร้อมออกมาตรการกําจัด และป้องกันโรคใบด่าง มันสําปะหลัง Cassava Mosaic Disease (CMD) จัดตั้งงบฉุกเฉินเพื่อใช้ในการทําลายล้างไร่มันสําปะหลังที่เป็นโรคใบด่างฯ ฉีดยากําจัดแมลงหวี่ขาวให้ครอบคลุมพื้นที่ จัดหาท่อนพันธุ์มันฯ ที่ปลอดโรคไว้ปลูกทดแทน และภาครัฐควรสนับสนุนท่อนพันธุ์มันสะอาดสําหรับฤดูกาลใหม่เพื่อสร้างแนวกันชนโรคในมันสําปะหลังที่กําลังระบาดอย่างจริงจัง
“เนื่องจากวิกฤตในครั้งนี้หมายถึงความหายนะของมันสําปะหลังไทยทั้งระบบ ควรเพิ่มความเข้มงวดในการกํากับดูแลการนําเข้ามันสดและมันเส้นจากประเทศเพื่อนบ้านให้เป็นไปตามระเบียบปฏิบัติและไม่ให้มีส่วนขยายพันธุ์พืชได้แก่ท่อนพันธุ์เหง้าใบ ติดมากับรถขนส่งเป็นอันขาด และควรเร่งทําลายโรคใบด่างฯ ภายในประเทศเพื่อชะลอ และหยุดยั้ง การแพร่ระบาดไปทั่วประเทศ ปัจจุบันมีการโฆษณาขายพันธุ์มันสําปะหลังเกินความเป็นจริงอย่างมากมายที่ไม่ได้เป็นพันธุ์”
‘จุรินทร์’หวังปลูกมันฯ ดันเศรษฐกิจ
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า เหตุผลที่ตัดสินใจเดินทางมาที่จังหวัดนครราชสีมา เพราะโคราชเป็นจังหวัดที่ปลูกมันสำปะหลังมากที่สุดใน ๔๙ จังหวัดที่ปลูกกันทั่วประเทศ นอกจากจะมาพบเกษตรกรที่ปลุกมันสำปะหลังแล้ว ยังมีโอกาสได้พูดคุยหารือกับผู้ผลิตสินค้าแปรรูปต่างๆ จากมันสำปะหลังด้วย ซึ่งถือเป็นการพูดคุยรับฟังความคิดเห็นถึง ๔ กลุ่ม คือ ๑.ชาวไร่มันสำปะหลัง ๒.ผู้ประกอบการลานมัน ๓.ผู้ประกอบการโรงมัน และ ๔.ผู้ส่งออกมันสำปะหลัง เพื่อเป็นการพัฒนาเศรษฐกิจโดยใช้มันสำปะหลังเป็นหลัก ส่วนแนวทางต่อจากนี้จะเป็นการมุ่งเน้นในเรื่องของการประกันรายได้ของเกษตรกรที่ปลูกมันสำปะหลังที่มีคุณภาพ จากการรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม และแลกเปลี่ยนความคิด เพื่อที่จะให้ชาวไร่มันสำปะหลัง ลานมัน โรงมัน และผู้ส่งออกมัน สามารถที่จะอยู่ร่วมกัน และคอยเกื้อหนุนกันได้ และเพื่อให้เกษตรกรมีรายได้ดีขึ้น และเพื่อเป็นการเดินหน้าทางเศรษฐกิจ โดยใช้มันสำปะหลังพื้นฐาน เพื่อเดินหน้าต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เตรียมยิงกระทู้ แก้โรคใบด่าง
“ส่วนการลงพื้นที่ในครั้งนี้ตนมาในฐานะหัวหน้าพรรคการเมืองหนึ่งเท่านั้น และเป็นตัวแทนของสภาผู้แทนราษฎร ไม่ได้มาในฐานะอื่น ส่วนเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลยังคงต้องรอต่อไป แต่ตนหวังว่าจะทำหน้าที่ดีที่สุดเพื่อพี่น้องประชาชน โดยการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในสัปดาห์นี้ตนได้ให้นายวุฒิพงษ์ นามบุตร ส.ส.เขต ๓ จังหวัดอุบลราชธานี ตั้งกระทู้ถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ถึงแนวทางการแก้ปัญหาให้กับเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังที่โดนโรคใบด่างมันสําปะหลังจากแมลงหวี่ขาว ซึ่งขณะนี้มีเกษตรกรได้รับผลกระทบหลายจังหวัดครบคลุมหลายพันไร่” นายจุรินทร์ กล่าว
ตามนโยบายเน้นประกันรายได้
นายจุรินทร์ กล่าวต่ออีกว่า จากนี้จะมุ่งเน้นในด้านการประกันรายได้ของเกษตรกรมันสำปะหลัง ซึ่งจะช่วยให้ชาวไร่ที่ผลิตมันสำปะหลังที่มีคุณภาพ สามารถมีรายได้ที่เป็นหลักประกันได้ และเป็นหลักประกันให้ลานมัน โรงมัน และ ผู้ส่งออกมัน สามารถให้อยู่รวมกัน ซึ่งเป็นแนวทางที่จะดำเนินการ นอกจากเรื่องของหลักประกันรายได้แล้ว จะเป็นเรื่องของการส่งเสริมการใช้มันในประเทศให้เพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะการทำเกษตรพันธสัญญา คือการทำเกษตรแปลงใหญ่ ที่จะรวมตัวกันบริหารจัดการ ซึ่งจะทำสัญญาอย่างชัดเจน เช่นว่า จะมีการรับซื้อกิโลกรัมละเท่าไร และมีคุณภาพแค่ไหน เพื่อเป็นหลักประกันขั้นต้น และผู้ซื้อผู้ใช้จะได้มีหลักประกันในเรื่องของปริมาณและคุณภาพ เพื่อที่จะได้มันสำปะหลังที่มีคุณภาพเพื่อใช้ในด้าอุตสาหกรรม หรือการดำเนินธุรกิจได้อย่างชัดเจน
ทั้งนี้ จะเน้นเรื่องของการขยายตลาดใหม่ๆ ในการส่งออก โดยปัจจุบัน เรามีตลาดส่งออกในหลายๆประเทศ เช่น จีน ญี่ปุ่น เกาหลี ซึ่งอาจจะต้องไปขยายตลาดในหลายๆ ภูมิภาคของโลก สำหรับผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังของไทย ซึ่งเป็นแนวทางขั้นต้นที่เตรียมไว้
ในข้อซักถามที่ว่าฝ่ายค้านเตรียมอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ปัจจุบันยังไม่มีรัฐบาล มีเพียงนายกรัฐมนตรีเท่านั้น ในส่วนรัฐบาลจะต้องรอให้มีการโปรดเกล้าฯ คณะรัฐมนตรีก่อน ส่วนระบบตรวจสอบของฝ่ายค้านเป็นเรื่องปกติ เนื่องจากระบบรัฐสภาต้องมีทั้งฝ่ายบริหาร และฝ่ายค้าน จะเป็นรูปแบบการตั้งกระทู้ถาม การยื่นญัตติ หรือการอภิปรายไม่ไว้วางใจสามารถทำได้ และในฐานะหัวหน้าพรรค ปชป. ไม่ว่าจะอยู่ในฝ่ายค้าน หรือฝ่ายรัฐบาล หรือพรรคร่วมรัฐบาล ก็พร้อมน้อมรับ และสนับสนุนให้มีการตรวจสอบ เพราะระบบรัฐสภา ประชาชนจะได้ประโยชน์สูงสุดเพราะจะมีฝ่ายบริหารที่ดี และมีฝ่ายค้านที่เข้มแข็ง เพื่อตรวจสอบร่วมกัน สุดท้ายแล้วคนที่ได้ประโยชน์สูงสุดคือประชาชน
ทั้งนี้ในกระแสที่บางพรรคยังมีการทะเลาะกันเอง นายจุรินทร์ กล่าวว่า ตรงนั้นเป็นปัญหาของแต่ละพรรคที่ต้องจัดการ คลี่คลายปัญหาภายในของตัวเอง ความมีเสถียรภาพจะต้องขึ้นอยู่ ๒ ส่วน คือ เสียงในสภาผู้แทนราษฎร รัฐบาลต้องเป็นรัฐบาลที่มีเสียงข้างมาก หากเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย แน่นอนว่าไม่มีเสถียรภาพแน่นอน ในขณะเดียวกัน ผลงานของรัฐบาลก็เป็นเรื่องที่มีความสำคัญ ถ้ารัฐบาลที่บริหารราชการแผ่นดิน มีผลงานที่มีความชัดเจน ประชาชนพอใจ ก็จะช่วยเพิ่มเสถียรภาพของรัฐบาลเพื่อให้ประชาชนยอมรับมากขึ้น และตนไม่ขอออกความคิดใดๆ เนื่องจากการแก้ปัญหาภายในพรรค หัวหน้าพรรคเองรู้อยู่แล้วว่าควรทำอย่างไร โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรีท่านใหม่ ที่เข้ามาในนามพรรคพลังประชารัฐที่สนับสนุน ก็พอทราบอยู่แล้วว่าควรทำอย่างไร
ที่มา : หนังสือพิมพ์โคราชคนอีสาน