​“จุรินทร์”เคาะเดินหน้าประกันรายได้มัน ปี 4 พร้อม 3 มาตรการเสริมช่วยชาวไร่-ดันราคา

“จุรินทร์”ประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการมันสำปะหลัง (นบมส.) ไฟเขียวประกันรายได้มันสำปะหลัง ปี 4 คงเงื่อนไขเดิมประกันราคา 2.50 บาทต่อกิโลกรัม จ่ายเงินส่วนต่าง 12 งวด เคาะมาตรการเสริม ช่วยดอกเบี้ย 3% ให้เกษตรกรกู้ปลูกมัน ให้สถาบันเกษตรกรเก็บสต๊อก และลานมัน โรงแป้ง โรงงานเอทานอล ซื้อไปแปรรูปและเก็บสต๊อก พร้อมตั้งอนุกรรมการ 2 ชุด เดินหน้ายุทธศาสตร์มัน ดันผลผลิตต่อไร่ ผลักดันขายในประเทศและส่งออก

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการมันสำปะหลัง (นบมส.) ว่า ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบให้เดินหน้าโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังปี 4 ต่อไป โดยเงื่อนไขเหมือนกับ 3 ปีที่ผ่านมาทุกประการ คือ ประกันรายได้กิโลกรัม (กก.) ละ 2.50 บาท ไม่เกินครัวเรือนละ 100 ตัน เริ่มตั้งแต่ 1 ธ.ค.-1 พ.ย.2566 จ่ายเงินส่วนต่าง 12 งวด หากราคาต่ำกว่าที่ประกันรายได้ แต่ขณะนี้ยังไม่ต้องจ่าย เพราะราคา 3 บาทกว่า เกินที่ประกันรายได้ กก.ละ 25.0 บาทเป็นปีแล้ว โดยตั้งงบประมาณไว้ 4,743.5 ล้านบาท

ทั้งนี้ ที่ประชุมยังเห็นชอบมาตรการคู่ขนาน เพื่อช่วยผลักดันราคา โดย 1.ช่วยดอกเบี้ย 3% กับเกษตรกรรายย่อย เพื่อกู้ไปใช้ในการปลูกมันสำปะหลังตั้งงบไว้ 41.4 ล้านบาท 2.ช่วยดอกเบี้ยสถาบันเกษตรกรที่เก็บสต๊อกมันสำปะหลังไว้ในช่วงที่มันออกเยอะ จะได้ไม่ทำให้ราคาตกตั้งงบไว้ 15 ล้านบาท 3.ช่วยดอกเบี้ย 3% ให้กับลานมัน โรงแป้งหรือโรงงานผลิตเอทานอล ในการนำไปแปรรูปเป็นมันเส้น แป้งมันหรือเอทานอล และเก็บสต๊อกไว้ 3-6 เดือน ตั้งวงเงิน 225 ล้านบาท ถ้าจำเป็นจะเพิ่มวงเงินให้อีกในอนาคต ใช้งบประมาณรวมกัน 291.4 ล้านบาท รวมประกันรายได้และมาตรการคู่ขนานเป็นเงิน 5,035.3 ล้านบาท ซึ่งจากนี้จะได้เสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยเร็วต่อไป

นายจุรินทร์กล่าวว่า ยังได้มีการติดตามการเดินหน้าให้เป็นไปตามยุทธศาสตร์มันสำปะหลัง ปี 2564-67 โดยมีมติให้ตั้งอนุกรรมการ 2 ชุด เพื่อขับเคลื่อนให้เป็นระบบและเป็นรูปธรรมขึ้น คือ 1.อนุกรรมการด้านการผลิต เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการเพิ่มผลผลิตต่อไร่ ตั้งเป้าปี 2567 จะต้องได้ผลผลิตต่อไร่ไม่น้อยกว่า 5 ตัน ปัจจุบันทำได้เพียง 3.48 ตันต่อไร่ 2.ตั้งอนุกรรมการขับเคลื่อนการตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศขึ้น ขณะนี้ตลาดต่างประเทศถือว่าทำได้ทะลุเป้า เพราะเป้าตั้งไว้ว่าจะต้องเพิ่มขึ้น 3% แต่ทำได้ถึง 7% ส่วนตลาดในประเทศตั้งเป้าว่าราคาจะได้ไม่ต่ำกว่า 2.50 บาท แต่ขณะนี้ราคาอยู่ที่ 3.15 บาท

นอกจากนี้ มีข่าวดีสำหรับตลาดส่งออกมันสำปะหลัง โดยขณะนี้ทูตพาณิชย์ประจำฟิลิปปินส์ได้ประสานผู้นำเข้าวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่ต้องการนำเข้ามันสำปะหลัง จำนวน 37 บริษัท มาเจรจากับผู้ส่งออกมันสำปะหลังไทย ซึ่งได้พบกัน ช่วงวันที่ 9 ก.ย.2565 ที่ผ่านมา และเพื่อให้บรรลุผลสำเร็จโดยเร็ว ได้มอบหมายให้นายกีรติ รัชโน รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ รับผิดชอบบริหารจัดการเรื่องนี้ให้เกิดผลซื้อขายได้โดยเร็วที่สุด เพราะทั้งหมดนี้ จะมีผลในการช่วยยกระดับราคามันสำปะหลังให้เกษตรกรเพิ่มขึ้น

สำหรับสถานการณ์การผลิตมันสำปะหลังปีนี้ คาดการณ์ว่าผลผลิตจะอยู่ที่ 35.8 ล้านตัน หรืออาจต่ำกว่านี้ ซึ่งมีปริมาณความต้องการ 42.5 ล้านตัน สูงกว่าปริมาณการผลิตเช่นเดียวกับปีที่แล้ว และปัจจุบันราคาหัวมันสดสูงขึ้นมาก ตลอดปีที่ผ่านมาอยู่ที่เฉลี่ยกิโลกรัมละ 3.15 บาท เพิ่มขึ้น 23% มันเส้น กิโลกรัมละ 9.20 บาท เพิ่ม 21.8% แป้งมัน กิโลกรัมละ 17.10 บาท เพิ่ม 21%

ส่วนตัวเลขการส่งออก 7 เดือนของปี 2565 (ม.ค.-ก.ค.) สามารถส่งออกได้แล้ว 22 ล้านตัน เพิ่ม 14% เนื่องจากปริมาณไม่พอ จึงจำเป็นต้องนำเข้าส่วนนึง นำเข้ามาแล้ว 7 ล้านตัน สำหรับตลาดส่งออกของไทยที่ใหญ่ที่สุดคือ จีน 69% ญี่ปุ่น 8% อินโดนีเซีย 3% เกาหลี 2% เป็นมันเส้นประมาณ 40% แป้งมัน 60%

ที่มา : Commerce News Agency (CNA)