ร้อง “ประยุทธ์” เร่งแก้นำเข้าข้าวสาลี “ประพัฒน์” อัด รมว.พาณิชย์บริหารงานผิดพลาด
“ประพัฒน์” ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติเบรกแตก อัดรัฐมนตรีพาณิชย์ทำหนังสือให้แก้ไขปัญหาการนำเข้าข้าวสาลีที่สร้างความเดือดร้อนแก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพด มันสำปะหลัง ข้าวหลายครั้งกลับนิ่งเฉย ฟังแต่ผู้ประกอบการอาหารสัตว์ ชี้บริหารงานผิดพลาดอย่างร้ายแรง
จากกรณีผู้ผลิตอาหารสัตว์ในไทยมีการนำเข้าข้าวสาลีจำนวนมากมาผลิตอาหารสัตว์ ทำให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มันสำปะหลังและชาวนาหลายล้านคนขายผลผลิตในราคาต่ำกว่าต้นทุนการผลิต ล่าสุด ชาวไร่มันสำปะหลังขายหัวมันสดได้เพียง 0.80-1.20 บาท/กก. ขณะที่ต้นทุนการผลิต 1.91 บาท/กก. ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่แห้งแล้วชาวไร่ขายได้เพียง กก.ละ 4.50-5.50 บาท ขณะที่มีต้นทุนการผลิต กก.ละ 6.81 บาท
นายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ล่าสุดสภาเกษตรกรฯได้ทำหนังสือเรื่องความเดือดร้อนของเกษตรกรผู้ผลิตพืชเศรษฐกิจหลักของไทย ทั้งข้าว ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และมันสำปะหลังถึงนายกรัฐมนตรีแล้ว เพื่อขอให้ชะลอการนำเข้าข้าวสาลีซึ่งอยู่ในรายการสินค้าและบริการควบคุมปี 2559 ตามมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 19 ม.ค. 2559 โดยให้มีการกำกับดูแลการนำเข้า ไม่ให้กระทบต่อราคาข้าวโพดและมันสำปะหลังในประเทศ การขอให้ผลักดันการนำผลผลิตพืชคาร์โบไฮเดรตในประเทศ ประกอบด้วยรำข้าว 1.425 ล้านตัน ปลายข้าว 2.375 ล้านตัน ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 4.57 ล้านตัน มันเส้น 2 ล้านตัน และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากประเทศเพื่อนบ้าน 1.6 แสนตัน รวม 10.53 ล้านตันมาใช้ในการผลิตอาหารสัตว์เพื่อรักษาเสถียรภาพด้านราคาไม่ให้ต่ำกว่าต้นทุนการผลิตของเกษตรกรและเพียงพอต่อการครองชีพ และขอให้มีผู้แทนเกษตรกรที่เป็นผู้ผลิตพืชคาร์โบไฮเดรตร่วมในคณะทำงานวางแผนการผลิตและการตลาด วัตถุดิบอาหารสัตว์ครบวงจร เพื่อรักษาผลประโยชน์ที่อาจส่งผลกระทบต่อเกษตรกรผู้ปลูกพืชคาร์โบไฮเดรตในไทย
ปี 2559 อุตสาหกรรมอาหารสัตว์คาดการณ์ว่าจะผลิตอาหารสัตว์เพื่อใช้ในประเทศและส่งออก 16 ล้านตัน ต้องการพืชคาร์โบไฮเดรตเป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์ 50-55% ของจำนวนทั้งหมดหรือประมาณ 7-8 ล้านตัน ดังนั้น พืชคาร์โบไฮเดรตในประเทศและจากประเทศเพื่อนบ้าน 10.53 ล้านตัน จึงเพียงพอต่อการใช้ในการผลิตอาหารสัตว์ แต่ในปี 2558 ที่ผ่านมา มีการนำเข้าข้าวสาลีสูงถึง 3.467 ล้านตัน และในปี 2559 เดือน ม.ค.-ก.ค.มีการนำเข้า 1.918 ล้านตัน เทียบกับช่วงเดียวกันปี 2558 ที่นำเข้าเพียง 1.707 ล้านตัน นำเข้าเพิ่มขึ้นถึง 12%
“เรื่องนี้ไม่เป็นธรรมมากกับสังคมไทยโดยรวม เพราะกระทรวงพาณิชย์เอื้อประโยชน์ให้กับผู้ประกอบการอาหารสัตว์ ทำให้ต้นทุนการผลิตอาหารสัตว์อ่อนลง จากการนำเข้าข้าวสาลีจากต่างประเทศ ซึ่งมีผลทำให้เกษตรกรไทยขาดทุน ท้ายที่สุดรัฐต้องเอางบประมาณที่เป็นภาษีประชาชนทุกคนมาชดเชยเยียวยาเกษตรกรนับหมื่นล้านบาท ทั้งที่คนได้เงินได้ประโยชน์คือ ผู้ประกอบการอาหารสัตว์ที่เป็นคนรวยเพียงหยิบมือ แต่เกษตรกรล่มสลาย ทำไมรัฐไม่ปรับสมดุลการนำเข้าวัตถุดิบอาหารสัตว์ให้เหมาะสมทั้งปริมาณและช่วงเวลาที่นำเข้า” นายประพัฒน์กล่าว
ปีที่ผ่านมา นำเข้าข้าวสาลี 3.6 ล้านตันมากเกินไป ที่นายกสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทยบอกว่าจะนำเข้าไม่เกินปีที่ผ่านมา ถือว่ามากไป ส่วนจะจำกัดการนำเข้าแค่ไหน ต้องมาดูราคาข้าวโพด มันสำปะหลัง ถ้ามีผลกับราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ในประเทศ ต้องชะลอการนำเข้าและอย่านำเข้าในช่วงจังหวะที่ผลผลิตในประเทศออกสู่ตลาด ตอนที่มีการนำเข้ามาจนล้นสต๊อก ไม่ต้องซื้อวัตถุดิบในประเทศก็พอใช้อยู่แล้ว ซึ่งไทยใช้วัตถุดิบพวกแป้งปีหนึ่งประมาณ 6 ล้านตันเท่านั้น ล่าสุดชาวไร่ข้าวโพดที่ลำปางขายได้ กก.ละ 3-4 บาทเท่านั้น
ส่วนประเด็นที่สภาเกษตรกรฯจะขอเจรจากับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์นั้น นายประพัฒน์กล่าวว่า รัฐมนตรีพาณิชย์ไม่เคยรับฟัง ทำหนังสือไปหาหลายครั้งก็ไม่ตอบกลับมา จนต้องทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีแทน แต่ถ้าท่านนายกรัฐมนตรีไม่ฟัง ก็สุดแล้วแต่เกษตรกร หมดหน้าที่ของสภาเกษตรกรแห่งชาติแล้ว สภาเกษตรกรฯไม่มีหน้าที่เอาม็อบไปเคลื่อนไหว เกษตรกรจะขับเคลื่อนเองก็แล้วแต่ ผมไม่มีหน้าที่แล้ว มีแต่เอาความเดือดร้อนของเกษตรกรมารวบรวมทำเอกสารเสนอไปยังรัฐบาลและผู้ที่เกี่ยวข้อง ถ้ารัฐบาลเอาไปแก้ไขก็ขอบคุณที่ทำประโยชน์แก่ประเทศโดยรวมถ้าไม่แก้ไข ก็จะบอกเกษตรกรว่า สภาเกษตรกรฯทำหน้าที่เต็มที่แล้ว
“คนรวยมีหยิบมือเดียว แต่คนล่มสลายล้มละลายมีหลายล้านครัวเรือน รัฐบาลต้องเอาเงินงบประมาณมาเยียวยา ถ้าเป็นรัฐบาลมาจากการเลือกตั้ง ผมเชื่อมั่นว่า เกษตรกรปิดทำเนียบ ปิดกระทรวงพาณิชย์ ปิดศาลากลางไปแล้ว เพราะเดือดร้อนกันมากตอนนี้เกษตรกรอดทนอดกลั้นเพราะเราเชื่อว่านายกรัฐมนตรีคนนี้มีความจริงใจกับประเทศนี้ ยังไม่อยากสร้างภาระให้กับท่านนายกรัฐมนตรี แต่ในส่วนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กลับไม่ฟังเราเลย ทำหนังสือไปหาหลายครั้ง กลับไม่แก้ไข ฟังแต่ผู้ประกอบการอาหารสัตว์ที่เป็นกลุ่มทุนรายใหญ่ไม่กี่ราย ถือว่าท่านบริหารงานผิดพลาดอย่างร้ายแรง ควรที่จะปรับสมดุลการนำเข้าโดยเร็ว” นายประพัฒน์กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากปัญหาดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการค้าวัตถุดิบอาหารสัตว์ภายในประเทศหลายชนิด โดยสมาคมพืชไร่ชี้แจงว่า การที่ผู้ประกอบการผลิตอาหารสัตว์ได้นำเข้าวัตถุดิบข้าวสาลี ส่งผลกระทบต่อข้าว ข้าวโพด มันสำปะหลัง เนื่องจากผู้ประกอบการผลิตอาหารสัตว์หยุดรับซื้อผลผลิตจากผู้ประกอบการค้าวัตถุดิบอาหารสัตว์ ส่งผลกระทบต่อการรับซื้อผลผลิตของเกษตรกร ส่วนผู้ประกอบการค้ามันสำปะหลัง 4 สมาคม ประกอบด้วย สมาคมการค้ามันสำปะหลังไทย สมาคมโรงงานผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังไทย สมาคมโรงงานผู้ผลิตมันสำปะหลังภาคตะวันออกเฉียงเหนือและสมาคมแป้งมันสำปะหลังแจงว่า ส่งผลกระทบในการรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรภายในประเทศประมาณ 2 ล้านตัน/ปี ขณะที่ผู้ประกอบการค้าข้าวไทยแจ้งว่า ส่งผลกระทบต่อการใช้วัตถุดิบรำข้าว ส่งผลกระทบต่อราคาข้าวที่จะรับซื้อจากเกษตรกร
ที่มา : ประชาชาติธุรกิจออนไลน์